วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554

บททั่วไป

ประกันภัย1 มีลักษณะเป็นการเฉลี่ยทรัพย์บางส่วนจากสมาชิกผู้เอาประกันมารวมไว้เป็นกองกลางจำนวนหนึ่ง  เมื่อมีผู้ได้รับความเสียหายตามสัญญา ผู้รับประกันภัยจะนำเงินจากกองกลางใช้ให้แก่ผู้เสียหาย  จากหลักการนี้ผู้รับประกันภัยต้องพิจารณาโอกาสแห่งภัยที่จะเกิดขึ้นว่าควรเป็นเท่าใด เรียกว่า ทฤษฎีความน่าจะเป็น2 (Theory of probability) และจำนวนผู้เอาประกันภัยเป็นปริมาณมากพอเพียง เรียกว่า ทฤษฎี (Theory of Great Numbers)

                ประกันภัย หมายถึง  การโอนความรับผิดชอบของผู้เอาประกันภัยไปยังผู้รับประกันภัย   โดยมีการสัญญาว่าเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นตามที่ตกลงกันไว้  ผู้รับประกันจะจ่ายค่าเสียหายให้ตามจำนวนที่รับประกัน  โดยผู้เอาประกันต้องส่งเงินจำนวนหนึ่งให้ผู้รับประกันเป็นเบี้ยประกัน 
                ประกันภัย  หมายถึง วิธีการเฉลี่ยความเสียหายของบุคคลหนึ่งไปให้แก่บุคคลอื่น เพื่อแบ่งภาระความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นนั้นให้หมดไปหรือเบาบางลง 

                                                                กฎหมายสำคัญเกี่ยวข้องกับประกันภัย

1.             ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 3 ลักษณะ 20 แบ่งเป็น 3 หมวด
หมวด 1  บทเบ็ดเสร็จทั่วไป  (ม.861-868)
หมวด 2  ประกันวินาศภัย    แยกเป็น  - ประกันวินาศภัยทั่วไป (ม.869-882)
                                                            - ประกันภัยรับขน  (ม. 883-886)
                                                         - ประกันภัยค้ำจุน (ม. 887-888)
หมวด 3  ประกันชีวิต  (ม. 889-897) 
2.             กฎหมายควบคุมการประกอบธุรกิจประกันภัยโดยเฉพาะ
                2.1  พ.ร.บ. ประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535
                2.2  พ.ร.บ. ประกันชีวิต พ.ศ. 2535
3.             กฎหมายประกันภัยภาคบังคับ  ได้แก่ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535


___________________________

                1ณัฐวัสส์ อิศรางกูร ณ อยุธยา,  คำอธิบายกฎหมายประกันภัย (ม.ป.ท. : สู่ฝัน,ม.ป.ป.),หน้า 13.
          2สุธาสินี  ธิติสุทธิ,วิชากฎหมายประกันภัย[Online], แหล่งที่มาwww.law.cmu.ac.th/law2011/journal/61001.doc[6 สิงหาคม]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น